Xiaomi Mi 11 Lite เป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กในตระกูล Mi 11 ที่มีเอกลักษณ์ในการดีไซน์โดดเด่นด้วยความบางและเบาของตัวเครื่องครับ รุ่น Lite จะมี 2 เวอร์ชันคือ 4G และ 5G สำหรับรุ่นที่เข้าไทยตอนนี้จะเป็นรุ่น 4G ครับ ซึ่งก็คือรุ่นที่ผมนำมารีวิวในวันนี้
ดีไซน์บางเบา
ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 157 กรัมเท่านั้น ในยุคที่มือถือทั่วไปหนักประมาณ 190++ กรัม เรียกว่าเบามากๆ จับถือสบายสุดๆ ครับ ตัวเครื่องใช้การออกแบบเป็นกระจกแบนทั้งด้านหน้าและหลังยิ่งทำให้ตัวเครื่องดูบางเข้าไปอีก โดยตัวเครื่องมีความหนาเพียง 6.8 มม. เท่านั้น โมดูลกล้องก็นูนออกมาน้อยด้วยครับ

ด้านหลังตัวเครื่องใช้ดีไซน์แบบกระจกเงาเหมือนกระจกส่องหน้าเลย

ปุ่มต่างๆ อยู่ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วยปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว

ด้านล่างเป็นที่อยู่ของพอร์ตชาร์จไฟ USB-C

ด้านบนเป็นที่อยู่ของไมค์ตัดเสียงรบกวนและ IR-Blaster

อุปกรณ์ในกล่อง
- ตัวเครื่อง
- เคสใส
- หัวชาร์จเร็ว 33W
- สายชาร์จ
หน้าจอดีงาม รองรับการแสดงผล HDR10
นอกจากความบางเบา อีกด้านที่ทำได้ดีของรุ่นนี้คือหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบ TrueColor ปรับสีตามสภาพแวดล้อม มาพร้อมความสามารถแสดงผลแบบ HDR10 ได้ด้วย รีเฟรชเรทอยู่ที่ 90 Hz และ Touch sampling 240 Hz

เข้าไปเช็กใน Netflix สามารถดูหนัง HD HDR ได้เลย แต่ตัวนี้จะไม่มีฟีเจอร์อัปสเกลภาพต่างๆ รวมถึงไม่มี MEMC ด้วย

ผมได้ลองนำไปใช้งานกลางแดดเพื่อดูว่าหน้าจอสู้แสงแดดได้ดีแค่ไหน เวลาเจอแดด หน้าจอจะทำการเร่งสีสันเพื่อให้ใช้งานกลางแดดได้อย่างชัดเจนครับ
ตัวซอฟต์แวร์สามารถปรับโทนสีของหน้าจอได้ หน้าจอในโหมดอัตโนมัติจะติดไปทางโทนเย็น ผมแนะนำให้ปรับอุณหภูมิสีเป็นโทนอุ่น จะให้สีที่เที่ยงตรงกว่าครับ
ลำโพงสเตอริโอ ไม่มีช่องหูฟัง
ลำโพงที่ตัวเครื่องเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ โดยใช้ลำโพงที่ท้ายตัวเครื่องกับลำโพงสนทนาคู่กัน เสียงลำโพงดังทีเดียว คุณภาพเสียงเรียกว่าค่อนข้างดีครับ ส่วนรุ่นนี้ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาด้วยเพื่อรักษาความบางของตัวเครื่องเอาไว้
ประสิทธิภาพใช้งานทั่วไป เล่นเกมแบบ Casual
มาดูสเปคคร่าวๆ ของรุ่นนี้กันครับ
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 732G
- แรม 8 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB UFS2.2
การใช้งานทั่วๆ ไปต้องบอกว่าใช้งานได้แบบลื่นไหลสบายๆ เลยครับ สำหรับการเล่นเกมตัวนี้สามารถเล่นเกมได้ระดับทั่วไปครับ สามารถเล่นได้ทุกเกมแต่อาจจะปรับสุดไม่ได้ เป็นเครื่องที่เน้นใช้งานแบบ Overall ครับ
การเล่นเกมจะมี Game Turbo ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น เช่น ช่วยเคลียร์แรม ปิดการแจ้งเตือน เพิ่มประสิทธิภาพเครื่อง เปลี่ยนเสียง จนถึงปิดหน้าจอระหว่างเล่นเกมสำหรับปล่อยบ็อท

สามารถเปิดแอปเป็นหน้าต่างเล็กระหว่างเล่นเกมได้

กล้องหลัง 3 ตัว
กล้องหลังมาแบบเซ็ตอัพ 3 ตัว ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 64MP f/1.8 PDAF
- กล้องมุมกว้าง 8MP f/2.2
- กล้องมาโคร 5MP f/2.4 AF
กล้องมีโหมดกลางคืน สามารถใช้งานได้ทุกระยะ
มีกล้องมาโครสำหรับถ่ายวัตถุใกล้ๆ พร้อมโฟกัสอัตโนมัติถ่ายง่าย
กล้องมีลูกเล่นค่อนข้างเยอะ เช่น เอฟเฟกต์ภาพยนตร์ที่ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ Mi 11 เลย

โหมดถ่าย VLOG สำหรับถ่ายวิดีโอสั้นที่จะตัดต่อ แต่งสี ใส่เสียง ใส่เอฟเฟกต์ให้เราอัตโนมัติ
สำหรับผลงานวิดีโอจากกล้อง สามารถถ่ายได้ถึง [email protected] ส่วนกล้องหน้าสูงสุดที่ [email protected]
โหมดที่ชอบที่สุดขอยกให้โหมด Sky Replacement เปลี่ยนท้องฟ้าได้ภายในคลิกเดียว ที่นอกจากเปลี่ยนท้องฟ้าแล้วยังแต่งสีโดยรอบให้เข้ากับท้องฟ้าอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายเพิ่มเติม
แบตเตอรี่
ขนาด 4,250 mAh อาจดูไม่เยอะเมื่อมองที่ตัวเลข แต่ด้วยขนาดหน้าจอและประสิทธิภาพโดยรวมทำให้การกินพลังงานอยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่ได้หมดเร็วแต่อย่างใด
- ทดสอบด้วยการเล่นเกม Call Of Duty : Mobile เป็นเวลา 25 นาที ใช้แบตเตอรี่ 10% ถ้าแบต 100% จะเล่นได้ประมาณ 4 ชม. 10 นาที
- ดูคลิป YouTube 10 นาที ใช้แบตเตอรี่ 2% ถ้าแบต 100% จะเล่นได้ประมาณ 8 ชม. 20 นาที
สรุป Xiaomi Mi 11 lite ดีไหม เหมาะกับใคร
เป็นมือถือที่มีจุดเด่นตรงความบางและเบา พกพาสะดวก การใช้งานในระดับทั่วไปถือว่าดีมากครับ ที่สำคัญต้องยกให้หน้าจอที่แสดงผลได้สวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือที่พกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายครับ เรียกว่าเป็นออปชั่นที่หาได้ยากอยู่ในปัจจุบัน