LG พร้อมวางขาย PuriCare Gen 2 ในประเทศไทย ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
- เทคโนโลยี VoiceON ที่มาพร้อมไมโครโฟนเพื่อขยายเสียงพูดให้คมชัดขณะสวมใส่
- หายใจสะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบพัดลมคู่ (DUAL fans) ระบายอากาศด้วยความเร็วของพัดลมที่ปรับให้เหมาะสมกับกิจกรรมและอัตราการหายใจของผู้สวมใส่อย่างอัตโนมัติ
- ขนาดที่เล็กลง น้ำหนักเบาเพียง 94 กรัม
- ดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อให้แนบชิดสนิทไปกับทุกสรีระใบหน้า
- ฟอกอากาศได้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยแผ่นกรองอากาศ HEPA H13 Class ดักจับอนุภาคในอากาศที่เป็นอันตราย รวมถึงฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ได้รับการรับรองประสิทธิภาพจาก บริษัท ทียูวี ไรน์แลนด์ (TUV Rheinland)
- มาพร้อมสายชาร์จ USB ความเร็วสูงในตัวที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่หน้ากากฟอกอากาศจนเต็ม ให้พร้อมใช้งานได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องสูงสุด 8 ชั่วโมง
- เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน LG Puricare Wearable Air Purifier ผ่านบลูทูธ เพื่อควบคุมเปิด-ปิดผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา ควบคุมการไหลเวียนของอากาศภายในหน้ากากฟอกอากาศ ควบคุมระดับเสียงของไมโครโฟนภายในหน้ากากตามความต้องการ และฟังก์ชั่นการจัดการแผ่นกรองอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าหน้ากากฟอกอากาศจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวจะพร้อมให้บริการในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ แอลจียังส่งนวัตกรรมเพื่อการทำงานควบคู่กันด้วยกล่องฆ่าเชื้อ UV แอลจีรุ่นใหม่
- เทคโนโลยี UVnano ที่สามารถขจัดแบคทีเรียบนพื้นผิวของหน้ากากฟอกอากาศได้ถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาเพียง 30 นาที
- สามารถตรวจสอบการทำงานและประวัติการใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ ผ่าน Wi-Fi
- สามารถใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ขนาดเล็กอื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ และแว่นตาได้อีกด้วย
หน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare Gen 2 จะวางจำหน่ายใน 2 สี ได้แก่ สีขาว (creamy white) และสีดำ (ocean black) ในราคา 6,490 บาท โดยรุ่นสีขาวพร้อมจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป ส่วนรุ่นสีดำ และกล่องฆ่าเชื้อ UV แอลจีรุ่นใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายน พ.ศ.2564