เป็นเวลากว่า 2 ปีที่ HUAWEI ถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหรัฐอเมริกา ทำให้มีปัญหาในการผลิตมือถือ แต่ HUAWEI ก็ไม่นิ่งเฉยและได้ขยายกิจการตัวเองไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตัวเองไม่เคยทำมากมาย หนึ่งในนั้นคือธุรกิจฝั่ง PC ครับ ซึ่งระดับ HUAWEI ทำก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาครับ ค่ายนี้มักจะมีแนวคิดทำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานผู้ใช้ สำหรับจอ HUAWEI MAteView GT เป็นจอมอนิเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะครับ มาดูกันว่าการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง
หน้าจอเพื่อเล่นเกม
จอ HUAWEI MAteView GT เป็นจอแบบ Ultrawide 21:9 ขนาด 32 นิ้ว ความละเอียด WQHD 3440 x 1440 จอโค้ง 1500R ใช้พาแนลแบบ VA ทำให้เวลามอง ริเวณขอบจอจะมีสีเพี้ยนนิดๆ แต่ไมไ่ด้มากมายอะไร แสดงผลขอบเขตสีได้ 90% DCI-P3 และ 100% sRGB รองรับการแสดงผล HDR10 ความถูกต้องของสี : ΔE <2 ความสว่างสูงสุด 350 nits อัตราความคอนทราสต์ 4000:1 ตัวนี้ไม่รองรับ Gsync และ Freesync นะครับ

สำหรับรีเฟรชเรทอยู่ที่ 165Hz ครับ ก็เรียกว่าทำได้ดีเช่นกัน เรียกว่าน่าจะถูกใจสายเกมน่าดูสำหรับสเปคนี้ ไม่ว่าจะเป็นพาแนล VA ที่ตอบสนองฉับไว แสดงผลสีได้ถึง 100% sRGB ΔE <2 รองรับแสดงผล HDR10 ด้วย

ตามสไตล์ของ HUAWEI คือต้องมาพร้อมหน้าจอที่ถนอมสายตาครับ ตัวนี้มีความสามารถลดแสงสีฟ้าและลดการกะพริบของภาพได้อัตโนมัติซึ่งได้รับการรองรับโดย TÜV Rheinland

หน้าจอยาวๆ นอกจากจะทำให้เห็นภาพในเกมได้กว้างกว่า หากเอามาทำงานก็จะได้ประโยชน์ในการเปิดแอปหลายๆ ตัวพร้อมกันด้วยครับ ด้วยความที่สีค่อนข้างดี สายแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอก็ใช้ได้ครับ

การดีไซน์
สำหรับการดีไซน์จอตัวนี้ จุดเด่นอยู่ที่ขาตั้งที่มีการออกแบบ Mechanic ในการปรับหน้าจอขึ้นลงมาเป็นพิเศษ โดยจะมีสายพานช่วยในการยกขึ้นลง เราสามารถปรับด้วยมือข้างเดียวได้เลย แต่ใช้ 2 มือปรับจะได้ความแม่นยำมากกว่าครับ

ตัวจอสามารถปรับก้มเงยได้ด้วย แต่ไม่สามารถหมุนซ้ายขวาได้ครับ จะหมุนคือต้องยกหน้าจอเลย

พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ด้านหลังของตัวหน้าจอครับ สำหรับใครที่อยากโชว์ความงามด้านหลังก็ไม่ต้องกังวลเพราะทาง HUAWEI มีฝาปิดพอร์ตด้านหลังมาด้วย ใช้ระบบยึดด้วยแม่เหล็ก การแกะและใส่เข้าไปใหม่ทำได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะมีชิ้นส่วนหัก

ส่วนด้านหน้าจะมีลำโพงในรูปแบบซาวด์บาร์ติดตั้งมาในตัวติดกับตัวฐานตั้งเลย

สำหรับเจ้าฐานตั้งตัวนี้สามารถถอดได้แบบง่ายๆ โดยดันที่สลักด้านหลังและดึงขึ้นแบบเฉียงๆ ครับ ตัวจอเป็นเมาท์ VESA สามารถนำไปติดกับฐานตั้งหน้าจออื่นๆ ที่คุณมีอยู่แล้วได้เลย แต่จะสูญเสียความสามารถของเจ้าลำโพงไป

การเชื่อมต่อต่างๆ
พอร์ตเชื่อมต่อมีดังนี้
- USB-C 2 พอร์ต โดยหนึ่งในนั้นใช้สำหรับชาร์จไฟให้หน้าจอ อีกพอร์ตสำหรับต่อเอาภาพขึ้นหรือใช้ชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้ จ่ายไฟได้ 10 วัตต์
- HDMI 2 พอร์ต
- DisplayPort 1 พอร์ต
- พอร์ต 3.5 มม. สำหรับต่อชุดหูฟังหรือลำโพง
การควบคุมแบบ Joystick
การตั้งค่าหน้าจอตัวนี้ออกแบบมาได้ดีมากครับ โดยตัดทุกความยุ่งยากออกให้เหลือเพียงปุ่มที่เป็นจอยสติ๊กในตัวปุ่มเดียว กดปุ่มเพื่อเข้าตั้งค่า จากนั้นใช้การโยกขึ้นลงซ้ายขวาเพื่อตั้งค่าหน้าจอได้เลยครับ และจอตัวนี้มีเมนูภาษาไทยด้วย (แต่ในรีวิวนี้ผมขอใช้เมนูเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)

ฟีเจอร์เพื่อการเล่นเกม
เนื่องจากเป็นหน้าจอเพื่อการเล่นเกม HUAWEI MateView GT ก็ต้องมีฟีเจอร์เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะมาด้วยครับ

Dark Field Control – เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มความสว่างในบริเวณมืดครับ ช่วยให้เราเห็นศัตรูยามค่ำคืนได้ชัดเจนขึ้น สามารถปรับได้ 2 ระดับ
Overdrive – ตัวนี้จะช่วยแทรกเฟรมภาพเพื่อลดอาการเบลอของภาพครับ สามารถปรับได้ถึง 4 ระดับ
Refresh rate – ตัวนี้จะเป็นการแสดงค่ารีเฟรชเรทไว้ที่มุมของหน้าจอ สามารถเลือกได้ว่าจะวางไว้มุมซ้ายหรือขวา
Crosshairs – ฟีเจอร์สำหรับสายเกม FPS ที่จะเปิดเป้าเล็งให้บนหน้าจอ สามารถเลือกสี เลือกรูปแบบ และปรับตำแหน่งได้ครับ

ลำโพงและไมค์แบบ Built-in
อย่างที่เกริ่นกันไปตั้งแต่ตอนต้น จอ HUAWEI MateView GT มีลำโพง Built-in มาให้ในตัวเลยครับ เป็นลำโพงในรูปแบบซาวด์บาร์สเตอริโออยู่ที่ฐานของหน้าจอ ลำโพงสามารถแยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจน แต่ไม่มีเบสครับ ส่วนไมค์จะอยู่ที่ด้านบนของหน้าจอ เป็นไมค์แบบ DMIC x 2 รองรับการรับเสียงระยะไกล 4 เมตร เรียกว่าสามารถใช้คุยกับเพื่อนตอนเล่นได้เลย

ตัวลำโพงมีแถบไฟ RGB มาด้วย สามารถปรับสีและปรับรูปแบบไฟได้หลากหลายแบบครับ น่าจะถูกใจเหล่าเกมเมอร์กันพอสมควร

ตัวแถบไฟไม่ได้มีไว้แค่สวยๆ อย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกครับ ตัวแถบไฟรองรับการสัมผัส เอาไว้ปรับระดับเสียงได้ และถ้าเรา Double tap ที่แถบไฟจะเป็นการเปิด/ปิดเสียงครับ

สรุป HUAWEI MateView GT ดีไหม เหมาะกับใคร
เรียกว่าเแม้จะเป็นหน้าจอมอนิเตอร์สำหรับเกมเมอร์รุ่นแรกจาก HUAWEI แต่ก็ทำมาได้น่าสนใจทีเดียวครับ สเปคต่างๆ ทำมาได้เหนือมาตรฐานจอเกมเมอร์ทั่วๆ ไปเล็กน้อย ด้วยสีที่จูนมาค่อนข้างดีจึงสามารถดัดแปลงไปใช้กับสายงานอื่นๆ ได้ด้วย ฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมที่น่าสนใจอย่าง Dark Field Control และ Crosshairs ตอบโจทย์คนเล่นเกมได้อย่างดี น่าเสียดายที่ไม่รองรับ G-Sync และ FreeSync ขาตั้งออกแบบให้ปรับได้ง่ายแต่เสียดายที่หมุนซ้ายขวาไม่ได้ แถมด้วยลำโพงไฟ RGB ใช้ได้ทั้งเหล่าเกมเมอร์และคนทำงานที่ต้องการใช้จอกว้างครับ