จั่วหัวล่อบาทาพอสมควร แต่เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายกับวงการมือถือบ้านเรา (และทั่วโลก) เมื่อ Product เปิดตัวใหม่ สเปคการใช้งานไม่ต่างอะไรกับของปีก่อน (2020) เผลอๆ ห่วยกว่าด้วย งงมั้ยครับ รุ่นใหม่ต้องดีกว่าของเดิมสิ ต้องยอมรับปีนี้อะไรมันเปลี่ยนไปเยอะ อยากให้ User เข้าใจเหตุผลเหมือนกัน

ต้นทุนแพงขึ้น ขายราคาเดิม
เรื่องนี้ส่งผลมาตั้งแต่ปลายปี 2020 เมื่อ Covid ทำเอาการผลิต ต้นทุนการขนส่ง แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทางที่ Brand จะควบคุมต้นทุนเหมือนเดิมได้ ต้องมีขานึงเสียผลประโยชน์ไป นั่นก็คือ ‘คุณภาพของฮาร์ดแวร์‘ ปรับลดสเปค จากเกรด A เหลือ B, B+ หรือ B+ เหลือ B- อะไรงี้ ไม่ต้องแปลกใจหากรุ่นใหม่ ทำไมกล้องห่วยกว่ารุ่นก่อน …
แลกกับราคา Device ยังขายเท่าเดิม อาจมีปรับขึ้นบ้าง แต่ภาพรวมไม่น่าเกลียดนัก ตรงนี้เจอทุกแบรนด์ ทีมงานไม่เจาะจงค่ายไหนเป็นพิเศษ เพราะกระทบทั้งวงการจริงๆ
ยอดขายน้อยลง
สิ่งที่ซ้ำเติม Marketing & Sale ของทุกค่ายตอนนี้คือ ยอดขายลดลง ลดลงที่นี้ไม่ใช่ 10-20% แต่ ‘เกินครึ่ง’ จากสภาพเศรษฐกิจภาพรวม นอกจาก Cost แพงขึ้น ปรับราคาไม่ได้ การเปิดตัวแต่ละครั้งต้อง ‘คิดเยอะกว่าเดิม’ ขายได้ไหม ขายใคร ปริมาณ Supply รุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างไรบ้าง
มันกลับไปเหตุผลคือ ยอดขายน้อย กำไรน้อยลงมาก ต้นทุนมีแต่เพิ่มกับทรงตัว ตรงนี้อาจเป็นข้อดีบ้างคือ Brand จะไม่ซอยรุ่นมั่วแบบเมื่อก่อนแล้ว เพราะทุกอย่างมีต้นทุนครับ

ผู้บริโภคเปลี่ยน
ย้อนกลับไปช่วงก่อน Covid เป็นช่วงที่ Brand มือถือแข่งขันร้อนแรง แย่งชิงยอดขาย – Market Share ทำให้เกิด Device สเปคเทพเทวดา จอโหด ชิบประมวลผลแรง กล้องสวยจัด ขายราคาแทบจะขาดทุน (เน้นปริมาณ) ผลคือ Consumer ยิ้มหน้าฉีกเลย จ่ายแค่ 4-5 พันบาท ได้ใช้มือถือสเปค Gaming แล้ว
นี่แหละครับ โดนสปอยล์กันหนักหน่วง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป วันนี้สเปค Device 4-5 พันบาท ทีมงานว่าห่วยกว่าปีก่อนอีก แล้ว Consumer ก็จะบ่นๆๆ ว่าทำไมรุ่นใหม่ห่วยกว่าของเดิม แพงขึ้นหรือเปล่า สุดท้ายไปจบกับรุ่นเก่า ไม่ก็มือ 2 สภาพดี ประกันเหลือเยอะแทน
อีกประเด็นน่าสนใจคือ ปีนี้คนหันมาสนใจ PC- Laptop มากกว่ามือถือ ซื้อใช้ทำงาน ดูหนัง เล่นเน็ต เรียนออนไลน์ Work From Home จ่ายก้อนเดียวจบ มือถือเดิมใช้งานได้ก็ใช้ไปก่อน เรื่องนี้ทีมงานสังเกตจากสถิติการเข้าเว็บของหลายๆ เจ้า สัดส่วนจาก PC มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ปลายปีหนักกว่านี้ ?
ทีมงานเชื่อว่าบรรยากาศคลุมเครือทั้ง ชิปขาดตลาด, ผลกระทบยอดขายลดลง, สภาพเศรษฐกิจ, พฤติกรรมผู้บริโภค, ความอิ่มตัวของเทคโนโลยี ฯลฯ จะกดดันตลาดมือถืออย่างน้อย 1-2 ปี แม้มี 5G ก็ไม่ช่วยอะไร คนไม่มีเงินใช้ แถม 5G ยังไม่จำเป็นสำหรับ Consumer ตาสีตาสา เพราะ WiFi, 4G เค้าสามารถใช้ดูหนัง เล่นเกม อ่านข่าวได้ปกติ
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่อง ‘ท้าทายรายวัน‘ ของ Marketing Brand แต่อาจเป็นเรื่องดีหากการ Launch Product สักตัว ต้องผ่านการ ค.ว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ) ก่อนลงสมรภูมิจริง ไม่ปังจริง ไม่เกิด ซวยยกแผนกนะเออ
ทีมงานจะยังคงติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด เอาใจช่วย Marketing & Sale ของแบรนด์มือถือที่เราคุ้นเคย เพราะปีนี้ทำงานยากจริงๆ ทั้งปัจจัยภายนอก + ภายใน หวังว่าจะกอดคอผ่านไปด้วยกันครับ 🙂