รีวิวกล้อง Vivo X50 Pro 5G กับกล้อง 4+1 ตัว

เรื่องที่คนสนใจมากๆ ของการชื้อสมาร์ทโฟนใหม่สักเครื่อง ถ้าไม่ใช่ความแรงของตัวเครื่อง หรือ ความเร็วการเชื่อมต่อเครือข่ายอย่าง 5G ก็คงจะกล้องถ่ายภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะถ่ายภาพตัวเอง ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือจะแม้ถ่ายเอกสาร วันนี้ผมเฟิร์ส ทีมงาน Review.co.th จะพาไปรีวิวกล้องเจ้าตัว Vivo X50 Pro 5G

สเปคกล้องของ Vivo X50 Pro 5G
- กล้องหลักกิมบอล 48 ล้านพิกเซล 26 mm f/1.6
- กล้องมุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล 16 mm f/2.46
- กล้องซูม 3 เท่า 8 ล้านพิกเซล 52 mm f/2.2
- กล้องซูม 8 ล้านพิกเซล 135 mm f/3.4 (Telescopic)
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.45
- แฟลชกล้องหลัง และ แฟลชกล้องหน้า (Selfie Lighting)
โหมดถ่ายภาพ
- Super Night Mode
- Astro Mode
- Pro Sports Mode
- Portrait (Art Portrait, AI Makeup, Filters, etc.)
- AR Stickers
- Slow Motion
- Live Photo
- Time-Lapse
- Video
- Supermoon Mode
- DOC
- Panorama
- Pro Mode
ตัวกล้องด้านหลังของ Vivo X50 Pro 5G นั้นมีเลนส์ทั้งหมด 4 ตัว ตั้งแต่เลนส์อัลตร้าไวด์ (13 mm กลางขวา), เลนส์ไวด์ (26 mm ด้านบน) เลนส์นอร์มอล (50 mm กลางซ้าย) และ เลนส์เทเลโฟโต้ (135 mm ด้านล่าง)


เมนูของแอพพิเคชั่นกล้อง ค่อนข้างทำความเข้าใจได้ง่าย เหมือนกล้องสมาร์ทโฟนทั่วไป โดยมีฟังกชั่นหลักๆ อยู่ในหน้าหลัก ทั้ง Night Mode (ถ่ายภาพกลางคืน), Protrait (ถ่ายภาพบุคคล), Photo (ถ่ายภาพทั่วไป), Video (ถ่ายวิดีโอ) และในส่วน More จะรวมฟีเจอร์ที่มีความซับซ้อนเอาไว้

ถ้าเราต้องการซูมสามารถทำได้ง่ายๆ โดยเพียงกดที่ตัวเลขที่อยู่ด้านบนคำว่า Photo ก็สามารถเลื่อนได้ตามต้องการตั้ง x0.6 จนไปถึง x60 เลยทีเดียว
โหมด Portrait ปรับแต่งได้เยอะกว่าที่คนเราต้องการ

สิ่งแรกที่เราควรจะปรับก็คือความเบลอในโหมด Portrait สามารถปรับได้ความเบลอเทียบเท่ารูรับแสง f/1 ในกล้องใหญ่

ในโหมด Face Beauty ของกล้องหน้าสามารถปรับได้เยอะพอสมควร ตั้งแต่ Skin Tone, ความใหญ่ เล็กของหน้า รวมไปถึงขนาดของอวัยวะต่างๆ โดยจะแสดงผลแบบ Real Time เลย

Mark Up เป็นการปรับเปลี่ยน และเพิ่มส่วนต่างๆบนในหน้า เหมือนเครื่องสำอาง

Posture เป็นการกะเฟรมให้ ว่าเราควรทำท่าไหน ถึงจะได้รูปภาพออกมาดีที่สุด โดยเราสามารถเลือกได้ ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้หญิงที่ใส่ท่าทางไม่ได้เก่ง


ลอง Portrait Mode

ในเคสนี้ผมลองให้เพื่อนผู้หญิงลองถ่ายเพื่อนผู้หญิงด้วยกันโดยใช้กล้อง Vivo X50 Pro 5G
เป็นกล้องที่ครบในเครื่องเดียว โดยเฉพาะการถ่ายภาพเเบบ portrait หน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับความเบลอของพื้นหลังเองได้ มีความเป็นธรรมชาติอยู่พอสมควร เเต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ โหมดหน้าสวย (Face Beauty) และ โหมดปรับหน้าสวยอัตโนมัติ (AI Face Beauty) ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเเต่งหน้านานๆในวันสบายๆ หน้าก็จะสามารถสวยเหมือนเเต่งหน้าได้ โดยไม่ต้องพึ่งแอพอื่นเพิ่มเติม

ในโหมด Portrait นั้นเราสามารถเลือกฟิลเตอร์สีต่างๆ ได้เวลาใช้งาน

นอกจากนี้ยังสามารถใส่ Portrait Light Effect ไว้สำหรับเปลี่ยนโทนในโหมด Portrait

ตัวโบเก้เราสามารถปรับได้ว่าอยากได้โบเก้เป็นรูปอะไร แล้วก็ยังสามารถปรับค่ารูรับแสงเสมือนได้อีกด้วย
Pro Mode

ใน Pro Mode นั้นเราสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ตั้งแต่เลนส์ที่ใช้ ค่า Speed Shutter, ค่า ISO รวมไปถึง White Balance และ ระบบโฟกัส ที่ชอบมากๆ เลยก็คือ ตัววัดระดับน้ำ
ตัว Pro Mode ใน 2 รูปแรก และ Night Mode ในรูปสุดท้ายนั้น ต้องบอกเลยว่าชอบมากๆ เพราะตัวกล้องให้รายละเอียดที่ดี แม้ถ่ายตอนกลางคืน สีสันคม Contrast พอเหมาะ ตัวสีไฟล์จะออกโทนฟ้าหน่อยๆ
ทดสอบการซูม








จากที่ทีมงานได้ทดสอบการซูมนั้นก็ต้องบอกว่าในที่แสงกลางๆ เราสามารถซูมขึ้นไปได้ถึงราว 5 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด (เพราะมีเลนส์ซูม 5 เท่าแบบ Optical) ส่วน 10 เท่านั้นยังสามารถใช้งานได้สบายๆ 20 ยังพอสามารถใช้งานได้ ถ้าเกินกว่า 20 เท่าทีมงานเริ่มจะไม่แนะนำให้ใช้แล้วครับ
ภาพอื่นๆ จาก Vivo X50 Pro
ลองโฟกัสใกล้ๆ ต้องบอกว่าโฟกัสได้ใกล้มากๆ แถมยังให้รายละเอียดที่ดี
VIDEO จาก VIVO X50 PRO
ในการเทสใช้งานวิดีโอนั้น ผมก็ลองเอาไปเทสถ่ายวิดีโอง่ายๆ ประมาณ 1 Day With Vivo X50 Pro 5G
โดยรวมที่ผมประทับใจมากๆ เลยก็คือระบบกันสั่นที่หาตัวแทนได้ยาก โดยเฉพาะในโหมด Ultra Stable ข้อเสียคือไม่สามารถใช้เลนส์อัลตร้าไวด์ได้ ทำให้มุมมองค่อนข้างแคบ ยิ่งในโหมด Ultra Stable เรียกได้ว่าแคบเกินไปกว่าจะใช้ในชีวิตประจำวันได้ ด้านสีสันของวิดีโอก็ไม่ได้เด่น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานแสงธรรมชาติที่ไม่สว่างมากนั้นสีจะดร็อปไปพอสมควร

DOC… สแกนปุ๊บเป็นเอกสารปั๊บ
ฟังก์ชั่นที่ผมชอบมากๆ เลยคือ เราสามารถถ่ายรูแเอกสารแล้วให้ตัวเครื่องแปลงเป็นไฟล์ให้อ่านง่ายๆ ได้เลยในเวลาไม่กี่วินาที
Jovi เชฟรูปมาเดี๋ยวบอกเองชื้อที่ไหน

หนึ่งในฟังก์ชั่นที่ผมชอบก็คือ Jovi มันคือส่วนที่เราสามารถ Detect ได้ว่าบุคคลในภาพใส่ชุดแบบไหน แล้วระบบก็จะไปหาที่ใกล้เคียงที่สุดให้ แล้วเราสามารถสั่งชื้อได้เลยในแอพพลิเคชันช็อปปิ้งออน์ไลน์
แต่งภาพ! จบในแอพเดียว
ในตัวแอพพลิเคชันรูปภาพ หรือที่ดูรูปภาพนั้นเราก็สามารถปรับแต่งรูปภาพได้เหมือนตอนถ่ายเลย ถ้าเรารีบ เราก็สามารถมาปรับแต่งภายหลังได้ในฟังก์ชั่น AI Mark Up


Edit ทำให้สามารถปรับ แสงสีได้ตามใจชอบ รวมถึงจะ retouch ก็สามารถทำได้

Light Effect สำหรับปรับให้แสง ลงเป็นจุดๆ

Overall (ด้านอื่นๆ)
เรื่องอื่นๆ ที่ผมอยากจะชมตัว Vivo X50 Pro 5G นั้นก็คือดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยมากๆ ไร้ขอบ และด้านหลังที่สวยมากๆ สามารถนำมาถ่ายเป็นพร็อบได้เลย หน้าจอให้ความสว่างที่ดี และขนาดใหญ่ ใช้งานได้สบายแม้ในที่กลางแดด แถมยังเป็นจอ 90 Hz ที่ให้ความลื่นไหลที่ดี แต่มองในแง่ของช่างภาพ เทียบกับเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นก็อาจจะมีความหลอกตาพอสมควร

ประสิทธิภาพของ 5G แม้ผมจะยังไม่ได้ลอง แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้มากับเจ้าตัว Vivo X50 Pro 5G เพราะการชื้อเครื่องระดับราคา 2 หมื่นนิดๆ คนชื้อก็น่าจะ Concern พอสมควร ที่น่าเสียดายคือถ้าเราใช้ 5G เราจะไม่สามารถใช้งาน 2 Sim Card ได้
ความแรงของตัวเครื่องไม่ต้องเป็นห่วง สามารถตอบสนองการทำงานได้อย่างแน่นอน แรม 8 GB รอม 256 GB เพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน แบตเตอรี่สามารถชาร์จได้ไวมาก แต่ก็ไม่ได้ถือว่าทนทาน หากใช้งานหนักๆ ก็ต้องมีการชาร์จระหว่างวัน

ด้านกล้องที่ชอบมากๆก็คือความเป็น Gimbal ของตัวเครื่อง Vivo X50 Pro 5G เพราะสามารถถือถ่ายได้นิ่งมากๆ แถมระบบโฟกัสที่ค่อนข้างใว แม้จะมีปัญหาเวลา Detect เลนส์ไม่ถูกเวลาถ่ายใกล้มากๆ ก็ตาม
ใครกำลังสนใจสมาร์ทโฟนสักเครื่อง แล้วชอบ กล้องดีๆ กันสั่นเทพๆ จอสวยๆ Vivo X50 Pro 5G ก็น่าจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ