รีวิว Xiaomi Mi 10T Pro 5G ตอบทุกความสงสัยว่าคุ้มไหม

Xiaomi Mi 10T Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวมาเพื่อเขย่าตลาดมือถือโดยเฉพาะ ด้วยสเปคระดับ “นักฆ่าเรือธง” ในราคาที่ประหยัดกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด มาดูกันว่ารุ่นนี้คุ้มค่าตามที่เห็นในสเปคจริงไหมครับ
ดีไซน์กระจก 3 ชิ้นเน้นกล้องเด่น
Xiaomi Mi 10T Pro 5G มีการดีไซน์ที่ทำให้กล้องหลังโดดเด่นมากๆ ด้วยฝาหลังกระจก โมดูลกล้องหลังขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล

ปุ่มควบคุมต่างๆ ของเครื่องถูกจัดไว้ที่ฝั่งซ้ายของเครื่องทั้งหมด โดยปุ่ม Power ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยในตัว

การเชื่อมต่อมีเพียงพอร์ต USB-C ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ลำโพงเป็นแบบลำโพงสเตอริโอ แยกเสียงซ้ายขวาได้

ที่สำคัญคือเคสแถมของรุ่นนี้สวยมากๆ แถมยังมีเทคโนโลยีพิเศษที่ทำให้ลดปริมาณแบคทีเรียสะสมที่เคสถึง 99.99%

หน้าจอ LCD 144Hz คุณภาพดี
หน้าจอของ Xiaomi Mi 10T Pro 5G เป็นหน้าจอ LCD ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรท 144 Hz แบบ Adaptive refresh rate หน้าจอจะปรับรีเฟรชเรทให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่
ซึ่งหลายคนตั้งคำถามกับหน้าจอชนิด IPS LCD ว่าคุณภาพดีแค่ไหน เพราะมือถือส่วนใหญ่ในปัจจุบันเลือกใช้หน้าจอชนิด OLED แทนแล้ว
ทาง Xiaomi เองเลือกหน้าจอ LCD เพื่อช่วยในการประหยัดต้นทุน แต่ก็เลือกจอ LCD ที่มีคุณภาพสูงมาให้ใช้งาน ได้รับการจูนสีมาให้แสดงผลสีอย่างแม่นยำ โดยมีค่า DeltaE = 0.63 และ JNCD = 0.39 ซึ่ง 2 ตัวนี้บ่งบอกถึงความแม่นยำในการแสดงผลสี ยิ่งเข้าใกล้ 0 ยิ่งดี สำหรับขอบเขตสีที่แสดงผลได้สามารถครอบคลุม DCI-P3

สิ่งที่คนส่วนใหญ่กังวลกันจริงๆ คือเรื่องการใช้งานกลางแจ้งว่าจอจะสู้แสงแดดได้ไหม ตัวนี้มีความสว่าง 650 nits พร้อมโหมด Sunlight mode 3.0 ที่จะปรับ Contrast ของหน้าจอ ทำให้มองเห็นข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอได้ง่ายแม้กลางแดดจ้า

และยังมีโหมดถนอมสายตาที่ช่วยลดแสงสีฟ้า ปรับหน้าจอเป็นโทนอุ่น
หน้าจอโหมดปกติ หน้าจอโหมดถนอมสายตา
อีกโหมดคือโหมด Paper ที่มีการเพิ่ม Texture ให้คล้ายหน้ากระดาษลงในพื้นหลัง ช่วยทำให้สบายตาขึ้น
จอตัวนี้มีข้อเสียเล็กน้อยคือตามขอบจอและขอบกล้องจะเป็นเงาดำๆ แสงไม่สม่ำเสมอทั้งจอ

สำหรับ Netflix มือถือรองรับ Widevine DRM L1 สามารถดู Netflix แบบ HD ได้อย่างแน่นอน แต่ต้องรออัปเดตก่อน

สเปคแรงสุด Snapdragon 865 เพื่อเล่นเกม
จุดที่เด่นมากๆ ของรุ่นนี้คือสเปคนี่แหละ เพราะได้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 ในราคาหมื่นกลางๆ ไม่ถึงสองหมื่น ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ จะราคาสูงกว่านี้ทั้งนั้น เรียกว่าเป็นตัวสุดคุ้มสำหรับการเล่นเกมเลย สำหรับสเปคอื่นๆ ตัวนี้มาพร้อมแรม 8GB LPDDR5 พื้นที่เก็บข้อมูล UFS3.1 ความจุ 128GB และ 25GB
Xiaomi จะมี Game Turbo อยู่ในแอป ความปลอดภัย อีกทีหนึ่ง ที่จัดเต็มฟีเจอร์ที่จะเสริมด้านการเล่นเกมเข้ามาโดยมีฟีเจอร์ดังนี้
- เร่งประสิทธฺภาพเครื่อง
- เร่งประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ Wi-Fi
- ปรับปรุงระบบเสียง
- ปิดการแจ้งเตือน
- รับสายเปิดลำโพงอัตโนมัติ
- ปิด Gesture (ทำให้สามารถใช้งาน Multi-touch ได้เต็มรูปแบบ)
- ปิดปรับความสว่างอัตโนมัติ
- ปิดใช้งานโหมดอ่าน
- ไม่ต้องเปิดแถบการแจ้งเตือน
และยังสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมแยกเป็นรายเกมได้ด้วย สามารถปรับความไวในการสัมผัสได้ และปรับพื้นที่ที่ทนต่อการสัมผัส ป้องกันทัชลั่นเพราะฝ่ามือ
สามารถปรับความเปรียบต่างสีของภาพได้ด้วย ทำให้เห็นรายละเอียดของฉากในเกมได้ชัดเจนขึ้น
เวลาอยู่ในเกมสามารถเข้าเมนูลัดของ Game Turbo ได้ด้วยการปัดจากขอบซ้ายบริเวณด้านบน สามารถตั้งค่าได้แบบรวดเร็วจากหน้านี้เลย

แถมยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ เพิ่มเข้ามาอีกอย่าง สามารถปิดจอโดยที่เกมยังทำงานอยู่ได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปิดบ็อท

สามารถเปิดแอปเป็นหน้าต่างเล็กได้ เอาไว้แชทระหว่างเล่นเกม

ทดสอบเล่นเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องกินสเปคมากๆ อย่าง Genshin Impact สามารถปรับกราฟิก “สูง” และเฟรมเรท 60 fps โดยเกมยังลื่นไหลอยู่ แต่หากปรับเป็นสูงมากจะมีอาการเฟรมเรทตกชัดเจน

การเชื่อมต่อทันสมัย Wi-Fi 6 + BT5.1 มี 5G
สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายของ Xiaomi Mi 10T Pro 5G มีเพียงพอร์ตเดียวคือ USB-C 2.0 ไม่มีช่องหูฟัง การเชื่อมต่อแบบไร้สายมีทั้ง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6
ซิมเป็นแบบ 2 ช่อง รองรับ 5G+4G โดย 5G จะเป็น 5G แบบ NSA เท่านั้น ซึ่งเป็น 5G แบบที่ใช้พื้นฐานโครงข่ายของ 4G (ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) ไม่รองรับแบบ SA ซึ่งปัจจุบัน AIS เริ่มมีการวางเครือข่ายแบบ SA แล้ว อย่างไรก็ตาม 5G ส่วนใหญ่ที่สามารถใช้ได้ในปัจจุบันยังเป็น NSA อยู่
4G 5G
กล้อง 3 ตัวเน้นฟีเจอร์ถ่ายรูปแปลกตา
กล้องของ Xiaomi Mi 10T Pro 5G มีทั้งหมด 3 ตัว เซ็ตอัพกล้องดังนี้
- กล้องหลัก 108 MP, f/1.7, 26mm, 1/1.33″, 0.8µm, PDAF, OIS
- กล้องมุมกว้าง 13 MP, f/2.4, 123˚, 1.12µm
- กล้องมาโคร 5 MP, f/2.4, AF
ซึ่งกล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 108MP นั้นจะมาช่วยในการซูม โดยสามารถซูมได้ถึง 20 เท่าเลยทีเดียวแม้จะไม่มีกล้องซูมแยกก็ตาม
มุมกว้าง 1X 2X 20X
มีระบบ AI ที่จะปรับการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมกับรูปที่ถ่ายโดยอัตโนมัติ และสามารถเปิด HDR ได้ โดยมีโหมด HDR แบบ Auto ด้วย

สามารถเปิดกรอบแบบภาพยนตร์เพื่อถ่ายภาพแนว Cinematic ได้ด้วย
สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้โดยใช้โหมดบุคคล
มี Night mode สำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืน ซึ่งยังมีปัญหาในการวัดแสงอยู่บางจังหวะ
Xiaomi ยังมีฟีเจอร์ให้เราทำ VLOG ในแบบง่ายๆ ให้ออกมาน่าสนใจด้วยโหมด VLOG ที่จะมีแพทเทิร์นการตัดฉากในแบบต่างๆ มาให้เราเลือก
สามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมๆ กันได้
อีฟฟีเจอร์เก๋ๆ คือฟีเจอร์โคลนที่ให้เราแยกร่างได้ถึง 4 ร่างเลยทีเดียว

โหมดเอกสาร ทำให้เราสามารถถ่ายภาพเอกสารต่างๆ แล้วแอปกล้องจะทำการตัดพร้อมจัดระนาบให้ภาพออกมาเหมือนเราถ่ายเอกสารเลย


สำหรับการถ่ายวิดีโอ Xiaomi Mi 10T Pro 5G มีระบบกันสั่นวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยกันสั่นจะทำงานที่ความละเอียด 1080P @ 30fps
ในโหมดวิดีโอนี้สามารถเปิดกรอบแบบภาพยนตร์ได้เช่นกัน

สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดถึง 8K เลยทีเดียว

สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลแบบ Fixed focus สามารถทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอและเปิดเอฟเฟกต์บิวตี้ได้
แอปแต่งภาพเปลี่ยนท้องฟ้าได้
ถือเป็นอีกจุดเด่นของรุ่นนี้เลย เพราะแอปแต่งภาพของ Xiaomi Mi 10T Pro 5G มีฟีเจอร์เยอะมากๆ
มีโหมดแต่งภาพแบบคลิกเดียวจบที่แยกเป็น 4 พรีเซ็ต ได้แก่ คน อาหาร ทิวทัศน์ และ อัตโนมัติ
ในโหมดฟิลเตอร์ทั่วไปก็มีฟิลเตอร์ให้เลือกเยอะมากๆ แบ่งเป็น 4 หมวดย่อยได้เลยทีเดียว
ฟิลเตอร์ในหมดบุคคลจะใช้ AI ตรวจหาคนในภาพอัตโนมัติ และจะทำการแต่งภาพแบบแยกพื้นหลังและตังบุคคลออกจากกันได้ด้วย ที่เด่นมากๆ คือการทำภาพแบบพื้นหลังขาวดำที่กำลังฮิต ณ ขณะนี้
ภาพต้นฉบับ เอฟเฟกต์พื้นหลังขาวดำ เอฟเฟกต์สีชมพู
รูปที่มีท้องฟ้า ถ้าวันนั้นฟ้าไม่สวย เราสามารถเปลี่ยนท้องฟ้าได้จากในแอปเลย มีท้องฟ้าให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และแอปจะทำการแต่งภาพโดยรวมให้เข้ากับท้องฟ้าอีกด้วย ทำให้ท้องฟ้าดูสมจริงไม่หลอกตา
สำหรับภาพบุคคลสามารถปรับเปลี่ยนการเบลอหลังได้หลากหลายรูปแบบ
พร้อมเอฟเฟกต์แสงแบบแปลกๆ
แบตเตอรี่ 5,000 mAh
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีขนาด 5,000 mAh เพื่อตอบสนองสเปคแรงและหน้าจอ 144Hz ซึ่งเวลาเล่นเกมนั้นแบตลดไวจริงๆ จากการเล่นเกม Call of Duty Mobile เพียง 5 นาที แบตเตอรี่ลดลงถึง 2% แต่การใช้งานทั่วไปอื่นๆ แบตเตอรี่ไม่ได้ลดไวแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งเพราะอัตรารีเฟรชเรทที่ปรับอัตโนมัติตามการใช้งาน
สำหรับการชาร์จไฟ มาพร้อมการชาร์จเร็ว 33W จากในกล่อง ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มแต่อย่างใด
ประสบการณ์ใช้งานจริง
เรียกว่าเป็นมือถือรุ่นสุดคุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับราคา สเปคแรง การใช้งานลื่นไหลมากๆ ตัวระบบ MIUI ออกแบบมาสวยงามและใช้งานง่าย หน้าจอแม้จะเป็นหน้าจอ LCD แต่ใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ เป็นหน้าจอ LCD ที่ติดสีฟ้าน้อยมากๆ ใช้งานแล้วสบายตา กรแสดงผลแบบ Adaptive refresh rate ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้จริง