รีวิวภาพยนตร์ Deliver Us From Evil มึนๆ มั่วๆ แต่น้องกะเทยแย่งซีนสุด

Deliver Us From Evil หนังเกาหลีแนวฟิล์มนัวร์ที่ถ่ายทำถึง 3 ประเทศ หนังว่าด้วยนักฆ่าเกาหลีที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นแล้วมาตามหาลูกที่เขาไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีและถูกลักพาตัวไปในประเทศไทย แล้วความซวยบังเกิดเมื่อน้องชายของเหยื่อรายสุดท้ายเป็นนักฆ่ามือโหดเหมือนกัน เลยกลายเป็นหนังตามหาลูกพ่วงล้างแค้น เหมือน Taken ผสม John Wick และเรื่องนี้เป็นถึงหนังเกาหลีใต้ที่ทำรายได้มากที่สุดในปีนี้ แซงหน้าหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Train To Busan : Peninsula อีกด้วย

ตัวเนื้อเรื่องไม่มีอะไรซับซ้อน ออกแนวไปเรื่อยๆ ตัวเนื้อเรื่องและหน้าหนังเองแอบดูโบราณนิดๆ ด้วย ดูแล้วทำให้นึกถึงหนังอย่าง Bangkok Dangerous เลยทีเดียว ฉากต่อสู้ที่ดูเหมือนควรจะเป็นจุดเด่นของหนังกลับทำออกมาไม่ดี ใช้การตัดเยอะๆ และเร่งการเคลื่อนไหวให้เร็วๆ เราเลยไม่ค่อยรู้สึกถึง Impact ของการต่อสู้
ยิ่งกว่านั้นคือช่วงกลางๆ เรื่องเหมือนผู้กำกับมันมือ เริ่มใส่ฉากบู๊เวอร์ๆ ระดับระเบิดภูเขาเผากระท่อมมาเต็มไปหมด ยิ่งทำให้ขัดแข้งกับหน้าหนังที่ดูจริงจังของช่วงแรกเข้าไปอีก

สิ่งหนึ่งที่ผมเองมีความสงสัยมากๆ คือฉากซิ่งตุ๊กๆ มาบู๊นี่ทางผู้กำกับเค้าจงใจให้เท่หรือให้ขำ เพราะในหนังพยายามถ่ายทอดให้ดูเท่มากๆ แต่สำหรับชาวไทยบอกเลยว่ามันดูขำมากๆ
ส่วนที่ต้องพูดถึงคือการมาถ่ายทำในประเทศไทย ที่แอบคิดว่าใช้ทีมหาโลเคชั่นทีมเดียวหับหนังเรื่อง The Extraction ใน Netflix เพราะมีความคล้ายคลึงกันในหลายฉาก ตัวหนังพยายามสื่อว่าประเทศไทยและกรุงเทพฯ เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนพอสมควร ถ่ายทอดเฉพาะภาพถนนคนเดินที่แออัด ถนนหนทางที่โกโรโกโส และหลีกเลี่ยงให้เห็นภาพตึกสูงหรือสิ่งของทันสมัยต่างๆ

สิ่งที่ต้องชมคือการ Cast นักแสดงเกาหลีแต่ละคนที่แสดงดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพระเอก Jung-min Hwang ที่แสดงเป็นนักฆ่าอมทุกข์ Jung-jae Lee นักฆ่าเลือดเย็นที่ถ่ายทอดความโหดและความโรคจิตออกมาได้อย่างสุดขั้ว และคนที่โดดเด่นเป็นพิเศษยกให้ Jung-min Park รับบทเป็นกะเทยเกาหลีที่มาอยุ่ไทยที่แสดงระดับแย่งซีนกระจายทั้งเรื่องเลย
สรุปแล้ว Deliver Us From Evil พอสร้างความบันเทิงในการดูได้บ้าง เริ่มมาแบบน่าสนใจ แต่มาตายตรงความมั่วจนเรื่องออกทะเล ตัวละครของ Jung-min Park แย่งซีนมากๆ
ทั้งเรื่องชอบตอนตัวละครที่แสดงโดยน้าวิทยา ปานศรีงามถามตัวร้ายว่าทำไมต้องจองเวรจองกรรมพระเอกขนาดนี้ แล้วได้รับคำตอบว่า “ฉันจำไม่ได้แล้ว เหตุผลมันไม่สำคัญ”
Facebook Comments