เปิดตัวอย่างเป็นทางการซะที ถึงเลทบ้างก็ตามกับ iPhone 12 Series จัดเต็ม 4 รุ่นรวด เอาใจสาวก Apple ทุกเพศทุกวัย แน่นอนว่าข่าวหลุดต่างๆ ค่อนข้างตรงเช่นเคยครับ ทาง Review.co.th สรุปทุกข้อมูลเปิดตัว ราคา กำหนดวางจำหน่าย iPhone 12 ครบทุกโมเดลมาให้ชมกัน
iPhone 12 Series
รอบนี้ Apple อวด iPhone 12 รองรับ 5G เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะใน US เคลมว่า ‘5G Nationwide‘ เท่ากับรองรับทุกคลื่น ทุกค่าย หมายถึงบ้านเราก็ใช้ได้ทุกค่ายเช่นกัน ทั้ง N28, N41 ฯลฯ … น่าสนใจตรงการวางเสาสัญญาณ คิดว่าไม่มีปัญหาแบบในอดีตแล้วล่ะ
มาพร้อมกับหน้าจอ Super Retina XDR (ความละเอียด 2532×1170), กระจก Gorilla Glass Victus เคลือบเซรามิค (Ceramic Shield) เพิ่มความทนทาน รองรับมาตรฐาน HDR10, Dolby Vision ฯลฯ น่าจะเป็นหน้าจอที่ดีสุดในโลกแบบนึงเลย
ทุกรุ่นมากับชิพประมวลผล Apple A14 ผลิตบนขนาด 5 nm จำนวน Transistor มากกว่า A13 ราว 40% ประกอบด้วยซีพียู 6-Core, GPU 4-Core, Neural Engine 16 Core พร้อม Machine Learning Controller 2nd Gen ทำงานเร็วขึ้นอีก
รอบนี้อวดเกมเต็มที่ครับ ปกติ Apple A13 ก็ลื่นแล้วนะ อันนี้เคลมว่าเล่น LOL ลื่น 100%
กล้อง iPhone 12 | iPhone 12 Mini มาพร้อม เลนส์ Wide 12 ล้านพิคเซล (7 ชิ้นเลนส์) + Ultra-Wide 12 ล้านพิคเซล เท่ากัน ตรงนี้ต้องยอมรับว่าระบบ Image Processing ของ Apple ทำได้ดี คราวนี้ยังใช้ Night Mode กล้องหน้าด้วย (ค่ายจีนมีนานละ)
สามารถถ่ายวิดิโอสูงสุด 4K 60 fps คุณภาพดีสุดในตลาด (ยอมค่ะ) พร้อม Night Timelapse
ส่วน iPhone 12 Pro | iPhone 12 Pro Max ปลดให้ใช้ Deep Fusion ทุกกล้องเลย เลนส์ 12MP คนละตัวกับรุ่นปกติ (ดีกว่ามาก) พร้อมซูม 5 เท่า Optical OIS ที่น่าสนใจคือระบบ OIS เป็นชนิด Sensor-Shift (กันสั่นที่ตัวเซ็นเซอร์โดยตรง) ต่างจากเดิมที่กันสั่นตัวเลนส์
รองรับการถ่าย Apple ProRAW (Multiframe, SmartHDR) อันนี้อัพเดทตามภายหลัง
วิดิโอรองรับ 4K 60 fps แต่รองรับ Dolby Vision HDR, ค่าสี 10-Bit ฯลฯ ที่สำคัญ สามารถตัดคลิป HDR ผ่าน iPhone 12 (Pro) ได้เลย
LiDAR
กล้องพิเศษตัวนี้ พัฒนาจากรุ่นก่อนอย่างมากครับ ทำงานร่วมกับกล้องหลัก ถ่ายคน ถ่ายวัตถุ วัดระยะห้อง ฯลฯ อย่างแม่นยำสูงสุด ออโต้โฟกัสเร็วขึ้น 6 เท่า .. อันนี้พัฒนาใช้งานร่วมกับอะไรอีกมหาศาลเลย
MagSafe for iPhone
ไม่รู้เป็นนวัตกรรมมั้ย Apple นำระบบ MagSafe (แม่เหล็ก) พ่วงระบบชาร์จไร้สาย รองรับอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก แปะง่าย สะดวก ตรงนี้ต้องรอ 3rd Party ผลิตมารองรับเยอะๆ นะ เพราะของ Apple ขายเองแพงแน่นอน 😛
สเปค iPhone 12 Mini
- น้ำหนัก 135 กรัม
- หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 5.4 นิ้ว (2340 x 1080 พิคเซล)
- ความจุ 64GB / 128GB / 256GB
- ชิพประมวลผล Apple A14
- ระบบ iOS 14
- กล้องหลัก 12 ล้านพิคเซล (W) F1.6 OIS + 12 ล้านพิคเซล (UTW) F2.4
- กล้องหน้า 12 ล้านพิคเซล
- รองรับชาร์จเร็ว 20W (PD), ชาร์จไร้สาย (7.5W Qi, MagSafe 15W)
สเปค iPhone 12
- หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว (2532 x 1170 พิคเซล)
- ความจุ 128GB / 256GB / 512GB
- ชิพประมวลผล Apple A14
- ระบบ iOS 14
- กล้องหลัก 12 ล้านพิคเซล (W) F1.6 OIS + 12 ล้านพิคเซล (UTW) F2.4
- กล้องหน้า 12 ล้านพิคเซล
- รองรับชาร์จเร็ว 20W (PD), ชาร์จไร้สาย (7.5W Qi, MagSafe 15W)
สเปค iPhone 12 Pro
- หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว (2532 x 1770 พิคเซล)
- ความจุ 128GB / 256GB / 512GB
- ชิพประมวลผล Apple A14
- ระบบ iOS 14
- กล้องหลัก 12 ล้านพิคเซล (W) F1.6 OIS + 12 ล้านพิคเซล (Tele) F2.0 OIS ซูมเลนส์ 2.5 เท่า + 12 ล้านพิคเซล (UTW) F2.4 พร้อม LiDAR Scanner
- กล้องหน้า 12 ล้านพิคเซล
- รองรับชาร์จเร็ว 20W (PD), ชาร์จไร้สาย (7.5W Qi, MagSafe 15W)
สเปค iPhone 12 Pro Max
- หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.7 นิ้ว (2788 x 1284 พิคเซล)
- ความจุ 128GB / 256GB / 512GB
- ชิพประมวลผล Apple A14
- ระบบ iOS 14
- กล้องหลัก 12 ล้านพิคเซล (W) F1.6 OIS + 12 ล้านพิคเซล (Tele) F2.0 OIS ซูมเลนส์ 2.5 เท่า + 12 ล้านพิคเซล (UTW) F2.4 พร้อม LiDAR Scanner
- กล้องหน้า 12 ล้านพิคเซล
- รองรับชาร์จเร็ว 20W (PD), ชาร์จไร้สาย (7.5W Qi, MagSafe 15W)
สำหรับแพคเกจ iPhone 12 Apple บอกว่าบางลงถึง 70% ส่วนนึงเพราะไม่แถมวอลชาร์จนี่แหละ
ไม่แถมวอลชาร์จนะจ๊ะ
ดีไซน์
เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งแรก Back to Basic กลับไปสู่ ‘ขอบเหลี่ยม‘ คล้าย iPhone 4-5 ทุกรุ่นมาพร้อมขอบวัสดุโลหะ (อลูมิเนียม – สเตนเลส) หน้าจอมีติ่ง (Notch) เหมือนเดิม ดูเหมือนเล็กลงบ้าง ขอบจอบางเฉียบ OLED ทุกโมเดล
ด้านหลังคง Design จาก iPhone 11 ทั้งการวางกล้อง วัสดุฝาหลัง ส่วนตัวคิดว่าตรงนี้ User ไม่ค่อยซีเรียสมาก ซื้อมาหาเคสใส่ – ติดฟิล์มอยู่แล้ว (ตอนนี้มีเคสออกมารอแล้วซะด้วย)
ของจริงน่าจะสวย โดยเฉพาะ iPhone 12 รุ่นปกติ ขอบโลหะ ฝาหลังกระจกหลากสีสัน
สีสัน
คราวนี้สีสัน iPhone 12 ไม่ฉูดฉาดแบบ iPhone 11 ซะทีเดียว แต่มีสีให้เลือกเยอะเหมือนกัน อย่าง iPhone 12 และ iPhone 12 Mini มีสีเด่นคือ ‘น้ำเงินเข้ม‘ รวมถึงสีทอง (กลับมาแล้วจ้า) และสีเบสิคอย่าง ดำ – ขาว – แดง Product Red จะพบว่าหน้าตาคล้าย iPhone 11 แต่เห็นว่าจอเป็น OLED แล้วนะ
ฝั่ง iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max คงเน้นสีสันโทนเข้ม สีเทา Space Grey, Gold, White และสีน้ำเงินเข้ม (กรมท่า) คนละโทนกับ iPhone 12 รุ่นปกติ
ราคา
- iPhone 12 Mini (64GB) = 699 USD
- iPhone 12 Mini (128GB) = 749 USD
- iPhone 12 Mini (256GB) = 849 USD
- iPhone 12 (64GB) = 799 USD
- iPhone 12 (128GB) = 849 USD
- iPhone 12 (256GB) = 949 USD
- iPhone 12 Pro (128GB) = 999 USD
- iPhone 12 Pro (256GB) = 1,099 USD
- iPhone 12 Pro (512GB) = 1,299 USD
- iPhone 12 Pro Max (128GB) = 1,099 USD
- iPhone 12 Pro Max (256GB) = 1,199 USD
- iPhone 12 Pro Max (512GB) = 1,399 USD
ภาพล่าสุดเห็นว่าเอา iPhone 11 Pro – Pro Max ออกเรียบร้อย
ราคาเท่า iPhone 11 เคยซื้อเท่าไหร่ เตรียมเงินไว้เท่านั้นเลย
กำหนดวางจำหน่าย
ด้านกำหนดวางขาย iPhone 12 Series แบ่งเป็น 2 ชุดด้วยกัน ต่างจากรุ่นก่อนๆ ที่ปูพรมขายพร้อมกันหมด คาดว่าเป็นเรื่องของ Supply Chain และระบบ Distribution ต้องใช้เวลามากกว่าปกติจากสถานการณ์ Covid-19 ในหลายประเทศครับ
- iPhone 12 Mini | iPhone 12 Pro เริ่มเปิดจอง 16 ตุลาคม, วางจำหน่าย 23 ตุลาคม 2563
- iPhone 12 | iPhone 12 Pro Max เริ่มเปิดจอง 6 พฤศจิกายน, วางจำหน่าย 13 พฤศจิกายน 2563
คาดว่าประเทศ Tier 1 ใช้กำหนดการนี้ ส่วนประเทศ Tier 2-3 รอประกาศจากทาง Apple อีกครั้ง (ของไทยน่าจะ Tier 2)
HomePod Mini
ลำโพงไร้สายพร้อมระบบ SIRI ในตัวจาก Apple เป็นเจ้าของในราคาย่อมเยากว่าเดิม หน้าตาสวยกว่าเดิม ขนาด 3.3 นิ้ว ชิพประมวลผล Apple S5
สำหรับคุณสมบัติของ HomePod Mini รองรับการสั่งงานด้วย SIRI ร่วมกันทั้ง Apple Watch, iPhone, iPad รวมถึง Carplay ด้วย ด้านเสียงก็ดีเช่นกัน ตั้งพร้อมกัน 2 อันเล่น Stereo ทำตัวเองเป็นลำโพงสื่อสารกับห้องอื่นๆ ภายในบ้านได้ด้วย
HomePod Mini สนนราคา 99 USD (3,100 บาท) มีให้เลือก 2 สีสันคือ — ขาว, ดำ เปิดขายวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ (ใน US)
ทั้งหมดนี้คือสรุปการเปิดตัว iPhone 12 Series พร้อม Gadget ที่จะให้คุณเสียเงินในค่ำคืนนี้ ห้ามพลาดทีเดียวครับ ทีมงานคาดว่าจะเปย์ซื้อ iPhone รุ่นใหม่เช่นกัน ทั้งนี้ หากมีข้อมูลการจำหน่ายในไทย เพิ่มเติมจะรีบอัพเดทให้ทราบทันที !