Redmi Note 10S เป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูล Redmi Note 10 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ 2 รุ่น สำหรับรุ่นนี้สร้างความแตกต่างด้วยตัวเครื่องเบาบาง แต่ยังจัดเต็มกับแบตเตอรี่ 5,000 mAh และชาร์จเร็ว 33W เหมือนรุ่นอื่นๆ
ดีไซน์บางเบา
การดีไซน์โดยรวมใช้ดีไซน์เดิมของตระกูล Redmi Note 10 ใช้ฝาหลังเป็นกระจกโค้ง ถือแล้วกระชับเข้ามือ

ปุ่มควบคุมต่างๆ อยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด โดยปุ่ม Power จะทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยครับ

พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ อยู่ด้านล่างเครื่องตามสไตล์ครับ มีพอร์ตหูฟังด้วย

ด้านบนมีสิ่งที่หาได้ยากในมือถือสมัยนี้คือพอร์ต IR-Blaster ที่สามารถใช้แทนรีโมตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เลย เอาไว้ควบคุมแอร์ ทีวี อะไรพวกนี้ได้หมด

หน้าจอ AMOLED สีสวย สู้แสงดี
หน้าจอใช้หน้าจอชนิด AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ให้สีค่อนข้างดีเลยครับ แนะนำให้เข้าไปปรับโทนสีเป็นอัตโนมัติ และเลือกอุณหภูมิสีเป็น อุ่น จะให้สีที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

อีกจุดเด่นคือการใช้งานกลางแสงแดดครับ ด้วยความสามารถของจอและซอฟต์แวร์การปรับสีตัวนี้ สามารถใช้งานกลางแดดจ้าๆ ได้แบบสบายๆ เลยครับ
อีกฟีเจอร์ที่ชอบมากๆ คือระบบ Always On Display ที่ใช้ข้อได้เปรียบของหน้าจอ AMOLED สามารถแสดงผลนาฬิกาเวลาที่ปิดหน้าจออยู่ หรือแสดงผลเป็นเวลาสั้นๆ เวลาหน้าจอดับหรือแจ้งเตือนเข้าก็ได้

และสามารถตั้งให้หน้าจอแสดงเอฟเฟกต์สีสันเวลาแจ้งเตือนเข้าได้อีก ทำให้เราสามารถทราบได้ทันทีว่ามีแจ้งเตือนเข้าโดยไม่ต้องมีไฟแจ้งเตือนครับ
ประสิทธิภาพระดับใช้งานทั่วไป
มาดูที่ประสิทธิภาพของตัวนี้กันบ้างนะครับ ตัวนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ถ้าเทียบกับฝั่ง Qualcomm Snapdragon ก็จะใกล้เคียงกับ Snapdragon 730G ครับ แรม 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB UFS2.2 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi5, Bluetooth 5.1

ประสิทธิภาพตัวนี้ก็จะเน้นใช้งานทั่วๆ ไปเป็นหลักครับ การเล่นเกมสามารถเล่นได้ในระดับเปิดกราฟิกกลาง – ต่ำ แต่ไม่เหมาะสำหรับคนจะนำไปเล่นเกมระดับจริงจังครับ ROV เปิด 60 fps ได้

มีตัวช่วยเล่นเกม Game Space ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้น เช่น ปิดแจ้งเตือน ปรับสีสันของภาพ เปิดแอปแบบลอยระหว่างเล่นเกม เป็นต้น
ตัวระบบปฏิบัติการมาพร้อม MIUI 12.5 บนพื้นฐานของ Android 11 ที่มีฟีเจอร์เด็ดๆ เหมาะกับการใช้งานพื้นฐานอย่างเช่น ฟีเจอร์ Dual Apps ที่สามารถโคลนแอปได้ทุกแอปในเครื่อง

แอป ความปลอดภัย ที่เป็นศูนย์รวมการดูแลเครื่องในแอปเดียว ไม่ว่าจะเป็นสแกนไวรัส กำจัดขยะ เพิ่มประสิทธิภาพเครื่อง

ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่ใส่มาในเครื่องไซส์นี้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ตรงนี้ผมขอยกให้เป็น Killer feature หรือ ความสามารถเด็ดที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจเหนือคู่แข่งเลย คือแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh แถมยังชาร์จเร็ว 33W อีก แต่มาในขนาดตัวเครื่องไซส์มินิ จับถนัดมือแบบนี้ แถมตัวเครื่องยังหนักแค่ 178.8 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับความจุแบตเตอรี่ แถมเบากว่าค่าเฉลี่ยน้ำหนักมือถือในยุคนี้ที่อยู่แถวๆ 190 – 200 กรัมอีกครับ สำหรับแบตเตอรี่ 5,000 mAh สามารถใช้งานได้นานขนาดไหน ผมลองทดสอบมาให้แล้ว
- ทดลองเล่นเกม Genshin Impact เป็นเวลา 10 นาที ใช้แบตเตอรี่ 4% คำนวณแบบง่ายๆ แบต 100% จะสามารถเล่น Genshin Impact ได้ประมาณ 4 ชม. 10 นาที แบตจึงจะหมด
- ทดลองเล่นเกม Call Of Duty : Mobile เป็นเวลา 15 นาที ใช้แบตเตอรี่ 5% คำนวณแบบง่ายๆ แบต 100% จะสามารถเล่นได้ประมาณ 5 ชม. แบตจึงจะหมด
- รับชม Netflix เป็นเวลา 21 นาที ใช้แบตเตอรี่ 3% คำนวณแบบง่ายๆ แบต 100% จะสามารถชมได้ประมาณ 11 ชม. 40 นาที แบตจึงจะหมด
กล้อง
กล้องของ Redmi Note 10S นั้นมีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน กล้องตัวแรกจะเป็นกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.8 รองรับ PDAF หรือ Phase Detection ทำให้โฟกัสได้รวดเร็ว แถมมีเลนส์อัลตร้าไวด์ ความกว้าง 118 องศา ก็สามารถทำได้ดี และมีเลนส์อีก 2 ตัวนั้นก็คือเลนส์มาโคร และ Depth Sensor ให้การทำงานนั้นแม่นยำมากยิ่งขึ้น






การเก็บรายละเอียดของ Redmi Note 10S ถือว่าทำได้ดี แม้ว่าในสถานการณ์นี้ผมจะถ่ายย้อนแสง ก็สามารถทำได้ดี เก็บทั้ง Highlight และ Shadow ได้ครบ ต้องชมเซนเซอร์ 13 ล้านพิกเซล ตัวนี้เลย

Crematic Mode เป็นการคร็อป แล้วเรามีขอบล่างบน เหมือนเราดูหนังบนโรง ก็จะได้อีกอารมณ์นึงเลย
สรุป Redmi Note 10S ดีไหม เหมาะกับใคร
สำหรับมือถือรุ่นล่าสุดในตระกูล Redmi Note 10 ตัวนี้ค่อนข้างจะมีความแตกต่างจากรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้พอสมควร ตัวก่อนหน้านี้จะออกแนวเป็นมือถือที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม แต่ตัวนี้จะเป็นมือถือที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันมากกว่าครับ จุดเด่นก็ต้องยกให้หน้าจอ AMOLED กับแบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 33W ที่สามารถใส่มาในตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเพียง 178.8 กรัมเท่านั้น เป็นสเปคที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยทีเดียวครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือพกง่าย และแบตเพียงพอต่อการใช้งานได้แบบทั้งวันทั้งคืนครับ หรือจะเอาไว้ปล่อย Hotspot ยังได้เลยครับ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ